เตรียมบัญชีธนาคารของคุณให้ดี เพราะนาฬิกาสุดหรูเหล่านี้ อาจจะทำให้เงินเก็บของคุณหายไปอย่างรวดเร็ว หรือแม้ว่าคุณจะไม่ซื้อมัน แต่ราคาของมันก็จะทำให้คุณต้องอ่านซ้ำอีกหลายรอบ !
1.Cartier Tank Solo XL Automatic
(คาร์เทีย แทงค์ โซโล เอ็กซ์แอล ออโตเมติก)
นาฬิกาโมเดล Tank ของ Cartier เป็นของมีค่าสำหรับการสะสมมาตั้งแต่ยุค 1920 มันได้รับการออกแบบในปี 1917 โดย Louis Cartier ซึ่งตผู้มีชื่อเสียงระดับโลกตั้งแต่ Cary Grant ไปจนถึง Andy Warhol ล้วนแต่สวมใส่มัน คุณก็ควรจะใส่มันเช่นกัน
(ราคา 117,905 บาท)
2.Patek Philippe Grand Complications
(ปาเต๊ะ ฟิลิป แกรนด์ คอมพลิเคชั่นส์)
นาฬิกาแบบแมนมวลของ Patek Phillippe มีตัวบ่งชี้วัน เดือน ปี อธิกสุรทิน และกลางวันกลางคืน รวมทั้งหน้าปัดย่อยในระดับวินาที เรียบง่ายแต่หรูหราสุด ๆ
(ราคา 4,287,048 บาท)
3.Omega Speedmaster Racing
(โอเมก้า สปีดมาสเตอร์ เรซซิ่ง)
ด้วยหน้าปัดย่อย 60 วินาที 30 นาที และ 12 ชั่วโมง นาฬิกาเรือนนี้จึงมีการจับเวลาที่แม่นยำมาก ขณะที่ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีลและสายยางที่มีขอบแบบสปอร์ต ถ้าคุณเป็นนักกีฬา ก็ต้องมีเรือนนี้แหละ
(ราคา 106,744 บาท)
4.Rolex Cosmograph Daytona
(โรเล็กซ์ คอสโมกราฟ เดย์โทน่า)
Daytona เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักแข่งมืออาชีพ โดยเป็นแแบบไขลานอัตโนมัติ มีสปริงหลักที่ใหญ่กว่าปกติเพื่อสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง ทั้งเที่ยงตรงและทนทานสมกับเป็น Rolex
(ราคา 801,601 บาท)
5.Blancpain Fifty Fathoms Meteor
(บลองค์เพน ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ เมทีเออร์)
นี่คือนาฬิกาสุดหรูที่คุณสวมใส่ได้ทุกวัน ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีลแบบสปอร์ต ขอบหน้าปัดเซรามิกสีดำ สายทำจากผ้าใบเรือที่แข็งแรง ภายในเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งมีพลังงานสำรอง 120 ชั่วโมง
(ราคา 219,304 บาท)
6.Chanel Monsieur Watch
(ชาแนล มองสิเออร์ วอช)
แม้จะมีลุคแบบมินิมอลแต่ก็มีความซับซ้อน นาฬิกาของ Chanel เรือนนี้มาพร้อมกับหน้าปัดโอปอล ตัวเรือนสีทองเบจ 18K และสายหนังจระเข้สีดำที่เรียบง่าย แต่มีเสน่ห์ลึกล้ำ
(ราคา 194,937 บาท)
7.Blancpain Fifty Fathoms Automatic
(บลองค์เพน ฟิฟตี้ ฟาธอมส์ ออโตเมติก)
Blancpain เปิดตัวนาฬิกาโมเดล Fiffy Fathoms เรือนแรกเมื่อปี 1953 โดยเป็นนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำที่ทันสมัยเรือนแรก โดยกันน้ำได้ลึกถึง 1,000 ฟุต มีดีไซน์ที่คลาสสิกด้วยเครื่องหมายบอกวันที่ และเข็มเรืองแสง
(ราคา 329,978 บาท)
8.Bulgari Octo
(บุลการิ ออคโต้)
นาฬิกาทรงแปดเหลี่ยมของ Bulgari เรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมโรมันโบราณหน้าปัดเคลือบสีดำเงาจับคู่กับสายหนังจระเข้สีดำ ตัวเรือนโรสโกลด์ 18K ให้ความรู้สึกภาคภูมิและหรูหราในแบบอิตาลี
(ราคา 833,199 บาท)
9.Rolex Explorer II Automatic
(โรเล็กซ์ เอ็กซ์พลอเรอร์ ทู ออโตเมติก)
สำหรับชายหนุ่มนักเดินทาง นาฬิกา Rolex เรือนนี้มาพร้อมกับกลไกไขลานอัตโนมัติ calibre 3187 และเข็ม 24 ชั่วโมงแยกต่างหาก เพื่อให้คุณสามารถติดตามเวลาในเขตอื่นได้
(ราคา 314,257 บาท)
11.Hublot Big Bang Chronograph
(ฮับบลอท บิ๊ก แบง โครโนกราฟ)
ด้วยวัสดุสแตนเลสสตีลพื้นผิวซาติน ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ให้ความรู้สึกหนักแน่น
และอบอุ่น ด้วยระบบไขลานอัตโนมัติ HUB4100 มีความแข็งแกร่งทนทานเป็นพิเศษ
ดูดีแน่นอนเมื่ออยู่บนข้อมือของคุณ
(ราคา 425,592 บาท)
11.Polo S Automatic
(โปโล เอส ออโตเมติก)
นาฬิกาของโปโลรุ่นนี้ ใช้ระบบอัตโนมัติ ตัวเรือนสีทองโรสโกลด์ 18K และสายหนังจระเข้ เข้ากันเป๊ะกับสูทตัวเก่งของคุณ
(ราคา 660,271 บาท)
12.Vacheron Constantin Overseas Automatic
(วัคชีรอน คอนสแตนติน โอเวอร์ซีส์ ออโตเมติก)
ด้วยอัญมณี 54 เม็ด และการแสดงผลแบบโครโนกราฟโปร่งแสง ,ตัวเรือนสแตนเลสสตีล ,กลไก calibre 5200 และสามารถสำรองพลังงานได้ 52 ชั่วโมง Vacheron เรือนนี้จึงคู่ควรกับข้อมือของคุณ
(ราคา 795,469 บาท)
13.Bell and Ross Vintage V2-93 Automatic
(เบลแอนด์โรส วินเทจ วีทูไนตี้ทรี ออโตเมติก)
สายยางสีดำและตัวเรือนสแตนเลสสตีลให้ความรู้สึกสปอร์ต ด้วยกลไก calibre BR-CAL303 ระบบอัตโนมัติและกรอบแบบสองทิศทางทำให้คุณติดตามเวลาได้ ไม่ว่าจะเดินทางไปถึงไหน
(ราคา 68,856 บาท)
14.IWC Portuguese Automatic Chronograph Silver Dial
(ไอดับบลิวซี พอทูเกส ออโตเมติก โครโนกราฟ ซิลเวอร์ ไดอัล)
จากการออกแบบดั้งเดิมในช่วงทศวรรษที่ 1930 และยังถูกกล่าวถึงอยู่เสมอ จึงได้รับการปรับปรุงโดยคงความคลาสสิกไว้ ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายและมีความแม่นยำของกลไก 79350 calibre ซึ่งมีอัญมณี 31 เม็ด
(ราคา 377,140 บาท)
15.Tiffany CT60
(ทิฟฟานี ซีทีซิกส์ตี้)
หน้าปัดสีขาวคมชัดของนาฬิกาขอบโรสโกลด์ 18K เรือนนี้อาจจะเป็นสีคลาสสิกของแบรนด์ทิฟฟานี แต่สายจระเข้และตัวเลขสีทองยังคงความทันสมัยเหนือกาลเวลา
(ราคา 597,388 บาท)
16.Longines Master Collection GMT Moonphase
(ลองกายส์ มาสเตอร์ คอลเลคชั่น จีเอ็มที มูนเฟส)
เข็มเวลาสีน้ำเงิน หน้าปัดสีขาว ตัวเรือนสแตนเลสสตีลและสายหนังจระเข้ นับเป็นการนำเสนอแนวทางใหม่ที่ทันสมัยแต่ยังคงความคลาสสิก ด้วยหน้าปัดอเนกประสงค์ซึ่ง
มีหน้าปัดย่อยสำหรับข้างขึ้น-ข้างแรม วันที่ และตัวบอกเวลา 24 ชั่วโมง
(ราคา 104,542 บาท)
17.Rado Diamaster Automatic
(ราโด ไดอะมาสเตอร์ ออโตเมติก)
ตัวเรือนล้ำสมัยด้วยเซรามิคสีเทา แผ่นหลังโปร่งใสด้วยกลไกล Calibre 657 ระบบอัตโนมัติ จึงเป็นตัวเลือกต้น ๆ สำหรับหนุ่ม ๆ สายมินิมอล
(ราคา 70,743 บาท)
18.Rolex Daytona
(โรเล็กซ์ เดย์โทน่า)
หน้าปัดสีน้ำเงินของโรเล็กซ์เพิ่งได้รับการปรับปรุงเมื่อไม่นานมานี้ แต่ "สีเขียว" โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ใช้กับ Rolex Daytona นั้นสวมใส่ได้อย่างเหมาะเจาะและมี เอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่า
(ราคา 1,233,575 บาท)
19.El Primero Chronomaster Automatic Silver Dial Men's Watch
(เอล พรีเมโร โครโนมาสเตอร์ ออโตเมติก ซิลเวอร์ ไดอัล เมนส์ วอทช์)
ดีไซน์ขึ้นใหม่จากรุ่นของปี 1969 โดยมีอัญมณี 31 เม็ด มีหน้าปัดย่อย 12 ชั่วโมง 30 นาที และ 60 วินาที ตัวเรือนสแตนเลสสตีลและสายหนังจระเข้
(ราคา 295,047 บาท)
20.Gucci Grip
(กุชชี่ กริ๊บ)
เป็นรุ่นที่ได้รับการตั้งชื่อด้วยคำที่เกี่ยวกับสเก็ตบอร์ด ตามวิธีการในการติดเทป(grip tape)ลงบนหน้าบอร์ด หน้าปัดนาฬิกาแสดงผลสามแบบ เป็นรูปลักษณ์ที่แปลกตา
แต่ถ้าคุณสวมเรือนนี้ คุณจะไม่เหมือนใครเลย
(ราคา 59,738 บาท)
21.Benjamin Banneker Crossover
(เบนจามิน เบนเนเคอร์ ครอสโอเวอร์)
นาฬิกาของเบนจามิน เบนเนเคอร์จะมีส่วนประกอบที่ทำจากไม้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ส่วนในรุ่นครอสโอเวอร์นี้ ใช้ไม้จันทน์แดงแอฟริกันวางทับไว้เหนือกรอบที่ทำจากโลหะ ให้ดีไซน์และผิวสัมผัสที่โดดเด่นและแปลกตา ถ้าคุณหลงรักมัน มันก็ควรเป็นของคุณ
(ราคา 13,362 บาท)
22.Parmigiani Fleurier Toric Hemispheres Retrograde
(ปาร์มิจิอาร์นี่ เฟลอเรอร์ โทริค เฮมิสเฟียร์ รีโทรเรจ)
ผู้ที่อาศัยอยู่แถบชายฝั่งไม่ว่าจะตะวันตกหรือตะวันออกจะต้องชื่นชมนาฬิกาเรือนนี้ ในบรรดาตัวเลือกมากมาย เพราะมันมีหน้าปัดย่อยที่ควบคุมได้อย่างอิสระ ในการบอกเวลาสำหรับเขตอื่น
(ราคา 496,775 บาท)
23.Cartier Drive de Cartier
(คาร์เทียร์ ไดรฟ์ เดอ คาร์เทียร์)
ไม่ใช่แค่รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือวงกลมเท่านั้น คาร์เทียร์ยังหมายถึงนาฬิการูปทรงหกเหลี่ยมนี้ด้วย ใช้กลไกล 1904-PS ตัวเรือนโลหะสีเงิน เข็มสีน้ำเงิน และเข็มวินาทีขนาดเล็ก
(ราคา 204,369 บาท)
24.Laureato Hand Wind Men's Watch
(ลอรีอาโต้ แฮนด์ วิน เมนส์ วอทช์)
นี่คือรุ่นที่พัฒนามาจากรุ่นคลาสสิกปี 1975 ด้วยกลไกแบบไขลานด้วยมือ หน้าปัดโปร่งแสงโชว์กลไกด้านใน พลังงานสำรอง 54 ชั่วโมง ตัวเรือนและสายเป็นเซรามิกสีดำ
(ราคา 775,032 บาท)
25.Movado Museum Classic
(โมวาโด มิวเซียม คลาสสิค)
สุดยอดแห่งความมินิมอล ด้วยหน้าปัดสีดำสนิท เรือนโลหะคาดทอง และจุดกลมที่ 12 นาฬิกา เรียบและหรูอย่างแท้จริง
(ราคา 23,463 บาท)
26.Piaget Altiplano
(เพียเจต์ อัลติพลาโน)
เพียเนต์ อัลติพลาโน ได้รับการขนานนามว่าเป็นนาฬิกาอัตโนมัติที่บางที่สุดในโลก ด้วยเรือนทอง 18K ที่ทำด้วยมือ เพรียวบางเพียง 3.65 มม. สำหรับคนที่ชอบอะไรบาง ๆ แต่หรูหรา เรือนนี้ตอบโจทย์คุณจริงๆ
(833,199 บาท)
27.Tom Ford Watch
(ทอม ฟอร์ด วอทช์)
จงวางใจใน "ทอม ฟอร์ด"ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องเสน่ห์ทางเพศอันละเอียดอ่อน นาฬิกาบางเฉียบเรียบหรูเรือนนี้ คุณสามารถใช้ได้ในทุกโอกาสทุกวัน และบ่งบอกถึงความโดดเด่นของคุณ
(82,093 บาท)
28.Elmington Emerald Green Watch x Gold
(เอลมิงตัน เอเมอรัลด์ กรีน วอทช์ เอ็กซ์ โกลด์)
นาฬิกาเรือนใหญ่หน้าปัดสีเขียวมรกตดีไซน์จากยุค 1960 ซึ่งได้รับการปรับปรุงดีไซน์ใหม่ เพิ่มความทันสมัยแต่ยังคงความคลาสสิค
(ราคา 9,809 บาท)
29.Regent diamond
(รีเจนท์ ไดมอนด์)
หน้าปัดสีเงินยวงรูปไข่ประดับด้วยเพชร ทำให้นาฬิกาเรือนนี้เข้ากันเป๊ะกับชุดสูทไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ตาม
(ราคา 304,322 บาท)
ลิ้งค์บทความ
https://www.townandcountrymag.com/style/jewelry-and-watches/g14418271/best-mens-luxury-watches/?slide=25