จะทำอย่างไรหากวันนี้คุณรู้สึกเหงา และไม่มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นยิ่งนานวันเท่าไหร่คุณกับยิ่งพบกับความรู้สึกตัวเองว่าต้องเหงามากกว่าเดิม ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลทำให้เกิดโรคอาการซึมเศร้าได้ หรือที่เรียกว่า (Depression) ดังนั้นวันนี้เรามาดูวิธีที่จะทำให้คุณหายเหงากันและคุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้หากนำไปปฎิบัติใช้
ความเหงานั้นเกิดจากอะไร ?
ทุกคนเคยสงสัยไหมครับว่าความเหงาเกิดขึ้นได้อย่างไร บางคนอาจพอตอบได้ว่าก็เราไม่ค่อยมีเพื่อน ไม่มีคนรัก นั่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกเหงาในแบบของแต่ละคน แล้วความเหงานี้มันจะเพิ่มทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัวต่อเมื่ออะไร กล่าวคือหากคุณต้องพบเจอกับสถานการณ์บางอย่างที่ไปกระตุ้นจิตใต้สำนึกกับความรู้สึกที่เรากำลังเป็นกังวลและว้าวุ่นอยู่ ซึ่งอาจจะเกิดจากสังคมภายนอก หรือตามสื่อต่างๆสิ่งเหล่านี้มักเกิดเป็นการเปรียบเทียบในหัวสมองของเราทำให้เราต้องเกิดความรู้สึกนั้นๆขึ้นมา โดยที่บางครั้งตัวเราเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเรากำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่และหาสาเหตุของความรู้สึกเหงาตัวเองไม่เจอ หรือแม้แต่บางคนอาจจะตอบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไมตัวเองถึงรู้สึกเหงา หรือคุณอาจพอตอบได้ไหมครับว่าเพราะอะไรที่เป็นเหตุผลจริงๆที่ทำให้คุณรู้สึกเหงา และเหตุผลอะไรทำไมคุณถึงเลือกเปิดอ่านบทความนี้ ผมอาจจะพอคาดเดาความรู้สึกคุณได้ว่าตอนนี้คุณกำลังสับสนกับความรู้สึกโดดเดียวของตัวเองในบางช่วงเวลาเท่านั้น และต้องการอยากให้ความเหงานั้นลดทอนลงด้วยใช่หรือไม่ แต่ในทางกลับกันอาจจะเป็นเรื่องดีสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านบทความนี้ เพราะเขาไม่ได้รู้สึกเหงาเหมือนกับคุณ ซึ่งผมจะมาทำให้คุณเลิกอ่านบทความแนวนี้กันเพื่อความรู้สึกที่ดีขึ้นถาวร กับคำว่า “ความเหงา”
พูดคุยกับความคิด และความรู้สึกตัวเอง
หลายๆคนส่วนใหญ่เวาลาเสิร์ชหาข้อมูลในกูเกิ้ลมักพบกับทริคที่ช่วยผ่อนคลายความเหงา เช่น ออกไปพบเจอผู้คนบ้าง เลือกกินแต่ของอร่อยๆ แต่การกระทำเหล่านี้นั้นมันก็ส่งผลดีแต่สุดท้ายแล้วคุณก็ยังรู้สึกเหงาเหมือนเดิม นั่นเป็นเพราะว่าคุณยังไม่มีความเชื่อในความคิดและการกระทำต่อสิ่งเหล่านั้น กล่าวคือคุณลงมือทำตามขั้นตอนน้อยนั่นเอง ซึ่งการจะเปลี่ยนเป็นการกระทำที่เป็นการกระทำถาวรได้นั้นอาจฟังดูยาก แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากคุณเข้าใจความรู้สึกตัวเอง
ความรู้สึกที่ดีขึ้นปรับใช้ได้กับทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่ความเหงา
วิธีนี้อาจจะใช้เวลาไม่นานแต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ให้คุณหลับตาแล้วตั้งสมาธิหายใจเข้าลึกๆจากนั้นพยายามรับรู้ลมหายใจตัวเอง ทำจนกว่าเสียงในหัวคุณจะเงียบลง หากคุณพบว่ายังมีเสียงในหัวอยู่พยายามอย่าฟื้นและกดดันความคิดตัวเอง ให้เปลี่ยนมาเป็นการเฝ้าดูความคิดนั้นแทนครับ กล่าวคือสังเกตการณ์ความคิดนั้นๆและพยายามประณีประนอมความรู้สึกตัวเอง หากคุณทำด้วยวิธีนี้บ่อยๆเมื่อเจอกับ ความเครียด ความเหงา หรือสิ่งอื่นๆที่คุณคิดว่ามันเป็นปัญหาสำหรับคุณสุดท้ายแล้วคุณจะพบกับวิธีแก้ปัญในแบบของตัวเองครับ คุณจะรู้โดยอัตโนมัติว่าทำสิ่งไหนแล้วดีต่อตัวเอง หากเลือกทำสิ่งนี้เราจะพบกับความรู้สึกแบบไหนในเหตุการณ์ข้างหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้น
และบางคนอาจสงสัยว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจะเลือกการกระทำแบบไหนในการแก้ปัญหาต่อสิ่งต่างๆ โดยผมอาจพูดแบบภาพรวมเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนๆนึงจะเลือกการกระทำแบบไหน ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ฟังดูเหมือนเป็นคนเหนือมนุษย์ใช่ไหมครับแต่การจะรู้ได้ว่าเราและบุคคลอื่นมีแนวโน้มที่จะกระทำอะไรนั้น ดูได้จากการถูกปูพื้นทางความคิด กล่าวคือหากเราเกิดมาในพื้นฐานความคิดและความเชื่อแบบไหนวิธีการต่างๆในการตัดสินใจเราก็มีแนวโน้มไปในทางนั้นๆครับ ยกตัวอย่างทำไมทุกวันนี้คุณถึงรู้ว่า 1+1 จะเท่ากับ 0 ย้อนกลับไปในช่วงวัยเรียนคุณถูกปูพื้นในเรื่องคณิตศาสาตร์ทำให้คุณรู้ได้ว่าสมการนี้จะเท่ากับเท่าไหร่ จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่คุณจะเข้าใจคนใกล้ตัวได้ดีกว่าคนอื่นๆ มาถึงตรงนี้ผมอาจจะอธิบายให้คุณเข้าใจแล้วว่าคำว่าปูพื้นมันคืออะไร และคุณอาจจะมีคำถามแสดงว่าที่ผ่านมาการตัดสินใจเราในเรื่องต่างๆที่เป็นความผิดพลาดในเรื่องนั้นๆเป็นเพราะเราถูกปูพื้นมาไม่ดีงั้นหรือ ก็อาจจะมีส่วนครับแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพียงแต่คุณสามารถเปลี่ยนพื้นฐานทางความคิดได้ในวันนี้และไม่สายเกินไปที่จะเปลี่ยน เมื่อรู้แบบนี้แล้วคุณอาจจะรู้สึกว่างั้นเราต้องเริ่มเปลี่ยนสิ่งต่างๆในความคิดตัวเองได้อย่างไรหล่ะ หากความรู้สึกปัจจุบันนี้ที่เราเผชิญอยู่นั้นมันรู้สึกแย่ ผมก็คงแนะนำสั้นๆได้ว่าให้คุณรู้ความรู้สึกตัวเองผ่านวิธีการข้างต้นในบทความนี้ จากนั้นคุณจะรู้ได้อัตโนมัติว่าตัวเราต้องการอะไรเพราะระบบความคิดในสมองคนเรามีสิ่งที่เรียกว่าการป้องกันตัวเองหากเราพบเจอกับสิ่งที่ไม่ดีเราก็จะป้องกันตัวเองและเลือกการกระทำที่คิดว่าทำแล้วตัวเราเองจะรู้สึกดีขึ้นได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะสอดคล้องกับ สัญชาตญาณ และจิตใต้สำนึก
สรุปที่คุณแตกต่างจากคนอื่นในทุกๆเรื่องนั้นเป็นเพราะ สัญชาตญาณการปูพื้นทางความคิดสิ่งต่างๆรอบตัวที่เราได้เรียนรู้มา หรือคุณเคยแนะนำคนอื่นๆในเรื่องไหนบ้างไหมครับคุณก็จะแนะนำแต่สิ่งที่คุณรู้มา นั่นแหละครับการแนะนำเรื่องต่างๆให้คนอื่นรับรู้เพื่อให้เขาเข้าใจก็เป็นแหล่งข้อมูลที่มาจากสิ่งที่ถูกปูพื้นทางความคิดมา เชกเช่นเดียวกับผมในตอนนี้ที่กำลังนำสิ่งที่ถูกปูพื้นทางความคิดมาอธิบายให้เพื่อนๆทุกคนได้ฟัง ซึ่งมันอาจจะดีกว่านี้ถ้าเราเป็นคนที่มีบุคลิกที่ดูดี ซึ่งการทำให้ตัวเองดูดีขึ้นได้นั้นสามารถทำและเห็นผลได้ในทันที “อิเคเมน” ผลิตภัณฑ์ครีมรองพื้นสำหรับผู้ชาย นวัตกรรมและมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ตัวช่วยปกปิดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าให้ดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับผิวหน้าผู้ชายโดยเฉพาะ มีกันแดด SPF25 PA++ ช่วยป้องกันแสงแดด กันน้ำ เนื้อครีมติดทนนาน ลดความหมองคล้ำให้ใบหน้า ให้คุณเอาอยู่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วย ikemen Foundation ครีมรองพื้นสำหรับผู้ชาย
#อิเคเมนรองพื้นผู้ชาย #ikemenThailand #รองพื้นคุมมัน #รองพื้นปกปิด #รองพื้นผสมกันแดด #ปกปิดรอยสิว