เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนมีคนใกล้ตัวที่เป็นบุคคลสำคัญในชีวิต เช่น เพื่อนสนิท ครอบครัว พวกเขาเหล่านี้มักมีความหมายกับคุณเสมอ มันจำเป็นหรือไม่หากเราต้องหาหัวข้อและวิธีการต่างๆไปช่วยฮีลใจพวกเขา จำเป็นอย่างมากครับเพราะหากคุณสามารถช่วยให้พวกเขากลับมามีกำลังใจและมีแรงผลักดันไปต่อได้ คนใกล้ตัวคุณก็จะรู้สึกขอบคุณ และรวมไปถึงคุณเองก็จะชื่นชมตัวเองด้วย
โดยปกติแล้วเราทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเครียดที่เกิดจากในชีวิตประจำวันได้ แต่ถึงอย่างนั้น หากคนที่มีวิธีจัดการกับความเครียดได้ดีก็จะได้เปรียบกว่า เพราะคุณสามารถฟื้นตัวได้เร็วจากเหตุการณ์นั้นๆ แต่เพื่อนๆบางคนอาจสงสัยว่าทำไมความเครียดมักอยู่ในความคิดเรานานกว่าเมื่อเทียบกับการที่เรามีความสุข และบางทีถึงขั้นเป็นความเครียดสะสม เรื้อรัง หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานๆ
เป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้
ในคณะที่เพื่อนๆกำลังอ่านบทความอยู่ ให้ลองนึกถึงสิ่งที่ตัวเองมีความสุขที่สุด ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ และหลังจากนั้นลองนึกถึงสิ่งที่เราเป็น กังวล เครียด และต้องการได้รับการแก้ไขจากอะไรบางอย่าง เมื่อได้ลองนึกและเทียบระหว่าง ความสุข กับ ความเครียด เพื่อนๆอาจได้คำตอบแล้วว่าเรามักจะคิดในแง่ของความเครียดทุกข์ใจมากกว่าที่จะนึกถึงสิ่งดีๆ สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะว่ากระบวนการคิดของสมองเรามักจะถูกไตร่ตรองและหาสาเหตุน้อยครับ กล่าวคือเราไม่ชอบการคิดอะไรที่มันยากเกินไปกว่านี้ อะไรที่คิดได้ง่ายๆมักเป็นทางเลือกที่ดีกว่า นั่นแปลว่าหากเจอปัญหาไหนที่เรื้อรังเราต้องคิดไปถึงแก่นต้นตอถึงปัญหานั้นๆเลยแหละครับ ถึงจะเจอวิธีการแก้ไขในแบบของเราหากคิดแบบผ่านๆเราก็จะเครียดเหมือนอย่างตอนนี้ ที่เพื่อนๆกำลังเป็นกังวลอยู่ เมื่อเรารู้เบื้องต้นแล้วว่า ความเครียด กับ ความสุข มันจะเกิดขึ้นและหายไปได้อย่างไร เราไปดูวิธีที่จะทำให้คนใกล้ตัวเรามีความสุขกันครับ
1.เริ่มรับฟังปัญหาของเขา อย่างจริงใจ!
โดยปกติแล้วเรามักจะฟังแค่ผ่านๆ และตัดสินใจแบบสรุปรวบรัด ทั้งๆเราเองก็ต้องการช่วยให้เขาได้ระบายมันออกมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ดีขึ้นเพราะการสนทนาของเราที่พูดต่ออีกฝ่ายเขาไม่ได้รู้สึกว่าจะเป็นหนทางออก และดีที่สุดสำหรับเขา นั่นแปลว่าหัวข้อการรับฟังนี้จะให้ประสบผลสำเร็จเราต้องเอาตัวเราไปเปรียบเทียบ กล่าวคือถ้าเราเป็นเขาในตอนนี้เราจะรู้สึกอย่างไรและมีความต้องการอะไร นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและเราเองก็จะเข้าใจคนใกล้ตัวเรามากกว่าเดิมชนิดที่ว่าเข้าใจถึงแก่นของความรู้สึก หากเราลองจำลองสถานการณ์กับประสบการณ์ที่เราเคยอาจพบเจอผ่านๆมาบ้างเพื่อให้เหตุการณ์นั้นสมจริง สุดท้ายเราก็จะเข้าใจคนใกล้ตัวเราได้ดีมากขึ้นและเรามักจะแนะนำทางออกให้เขาได้ดีกว่าตัวเขาเองด้วยซ้ำ
2.แชร์เรื่องที่เขาชื่นชอบ เพลง ภาพยนตร์ อื่นๆ
หากเราสามารถโน้มน้าวแชร์เรื่องที่เขาชื่นชอบได้อาจจะเป็น เพลง หนัง หรือสื่อบทความสั้นๆที่ทำให้เขาฉุดคิดและมีกำลังใจมากขึ้น นี่ก็เป็นอีกวิธีที่ง่ายที่สุดหากคุณเป็นคนที่รับฟังไม่เก่ง เพราะการที่เราได้จดจ่อกับสิ่งที่ชอบอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็สามารถทำให้สมองเราเบามากขึ้นเพราะเราได้ใช้จินตนาการไปกับสิ่งนั้นๆ แต่… เมื่อความสนุกที่เราทำนั้นจบลงเราก็มีแนวโน้มที่จะกลับไปเครียดได้อีกจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ วิธีนี้อาจจะช่วยได้เพียงความสุขระยะสั้นเท่านั้น แต่ผมมีวิธีครับคือรีบฉวบฉวยโอกาสในคณะที่เรากำลังมีความสุขระยะสั้นโดยรีบหาวิธีแก้ไขกับความเครียดนั้นๆ ทำไมถึงต้องรีบฉวยโอกาสในคณะที่เรากำลังมีความสุขหรือกำลังเพลิดเพลินกับอะไรบางอย่าง เพราะในช่วงนี้เราจะมีสติหรือมองปัญหานั้นเป็นไปในทางแง่บวกได้มากกว่าและสุดท้ายเราก็จะเจอวิธีที่ดีที่สุด หากทำแบบนี้บ่อยๆเมื่อความสนุกจบลงเราก็จะเบาลงไปมากเมื่อต้องพบเจอกับสิ่งเร้าต่างๆรอบตัว
3.สร้างเซอร์ไพร์ ในแบบที่เราถนัด
หากคุณมีเวลาลองสร้างสิ่งที่เรียกว่าเซอร์ไพร์ดูครับ เซอร์ไพร์ในที่นี้อาจจะเป็น สิ่งของ คำพูด ที่อีกฝ่ายไม่คิดว่าคุณจะกล้าทำและคุณไม่เคยทำมันมาก่อนหรือกับใครเลย อีกฝ่ายจะรู้สึกดีและเขาจะรับรู้ว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้จมอยู่กับปัญหาแต่เพียงผู้เดียว เพราะการใส่ใจจากคุณเพียงเล็กน้อยทำให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยวและเดียวดาย
4.จัดหมูกระทะชุดใหญ่
หากคุณเป็นคนที่มีกลุ่มเพื่อนเยอะๆ ลำพังจะใช้วิธีการนี้ทั้งหมดคงไม่ไหวเพราะแต่ละคนมีความคิดและพฤติกรรมที่แตกต่างกันไม่สามารถใช้วิธีการเดียวกันได้ในการแก้ไขปัญหา นั่นแปลว่าคุณต้องมานั่งทำความเข้าใจเขาใหม่ซึ่งมันอาจจะเหนื่อยเกินไปเพราะตัวเราเองก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวที่ต้องกระทำเช่นกัน ดังนั้นนัดรวมเลือกอาหารที่นั่งกันเป็นหมู่คณะและพูดคุยเรื่องสัพเพเหระต่างๆ หากคุณต้องการโดดเด่นและเป็นคนสำคัญกว่าคนอื่นๆ ในมื้อนั้นคุณอาจจะอาสาเป็นคนเลี้ยงและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนเพื่อนคนอื่นๆก็จะทำหน้าที่ในการฮีลใจเรียกได่ว่าเป็นระบบอัตโนมัติเลยแหละครับเพราะจากการพบเจอกัน และส่วนบุคคลที่คุณต้องการให้เขาหายเครียดก็จะได้รับการแก้ไขโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย กล่าวคือเขาจะจดจำคุณมากกว่าคนอื่นถึงแม้ว่าคุณจะมีบทบาทในการพูดน้อยแต่เขาจะรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้สาเหตุนั้นมาจากคุณ จากการชวน และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆ หากใครได้อ่านมาถึงตรงนี้แสดงว่าคุณมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยคนรอบข้างของคุณ ซึ่งวิธีการต่างๆดูเหมือนจะยุ่งยากแต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่คนสำคัญของคุณจริงๆ.
ผมหวังว่าเพื่อนๆคงได้นำวิธีการนี้ไปช่วยคนใกล้ตัวที่มีความสำคัญและบทบาทในชีวิตเราไม่มากก็น้อย ของขวัญอาจไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง เพียงแต่เขาสามารถที่จะใช้สิ่งของที่คุณมอบให้เกิดประโยชน์และเห็นผลในทันที จากการใช้เพียงครั้งเดียวอย่าง “อิเคเมน” ผลิตภัณฑ์ครีมรองพื้นสำหรับผู้ชาย นวัตกรรมและมาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น ตัวช่วยปกปิดริ้วรอยต่างๆบนใบหน้าให้ดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับผิวหน้าผู้ชายโดยเฉพาะ มีกันแดด SPF25 PA++ ช่วยป้องกันแสงแดด กันน้ำ เนื้อครีมติดทนนาน ลดความหมองคล้ำให้ใบหน้า ให้คุณเอาอยู่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ด้วย ikemen Foundation ครีมรองพื้นสำหรับผู้ชาย
#อิเคเมนรองพื้นผู้ชาย #ikemenThailand #รองพื้นคุมมัน #รองพื้นปกปิด #รองพื้นผสมกันแดด #ปกปิดรอยสิว