ทำความเข้าใจความคลั่งไคล้ทางเพศ Fetishism

ความผิดปกติของอารมณ์ทางเพศมักมีอารมณ์ทางเพศกับสิ่งที่ไม่มีชีวิตจากข้อมูลของDSM-5ยกตัวอย่างเช่น ชุดชั้นใน รองเท้าส้นสูง หรือส่วนต่างๆของร่างกายที่ไม่เกี่ยวกับอวัยวะเพศเช่น เท้า ก็สามารถกระตุ้นและมีอารณ์ทางเพศได้

มีการวินิจฉัยความผิดปกตินี้อาจจะมีผลกระทบจากความเครียด หรือ ปัญหาทางสังคมต่างๆโดยบุคคลที่มีความผิดปกตินี้จะสนใจส่วนที่ไม่ใช่อวัยวะสืบพันธุ์คำว่า “Fetishism” เป็นคำที่มาจากภาษาโปรตุเกส ที่แปลว่า ความหลงใหลหรือการครอบงำ โดยเขาจะให้ความสนใจวัตถุหรือส่วนต่างๆของร่างกายที่ไม่ใช่อวัยวะเพศหรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต

แต่สำหรับบางคนแค่รูปภาพหรือวัตถุบางชนิดก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศได้แล้วบางครั้งอาจมีการให้คู่รักสวมใส่ของวัตถุชิ้นนั้นๆที่เขารู้สึกต่ออารมณ์ทางเพศในระหว่างที่มีเพศสัมพันธุ์

โดยความผิดปกตินี้ทาง DSM-5 ได้ให้ข้อมูลว่ามักจะเกิดกับเพศชายมากกว่าเพศหญิงหรืออาจจะพบในเฉพาะเพศชายเท่านั้นก็คือผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิง

อาการ

ในการที่มีกิจกรรมทางเพศมักจะเน้นไปที่วัตถุหรือสิ่งของที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์ทางเพศหรืออาจจะเป็นส่วนต่างๆของรางกายโดยเขาจะถึงจุดสุดยอดได้ก็ต่อเมื่อต้องมีสิ่งของชิ้นนั้นที่เป็นตัวกระตุ้นแต่ในบางกรณีก็อาจจะไม่ต้องใช้วัตถุเพื่อเป็นตัวกระตุ้นแต่อารมณ์อาจจะลดลง

เกณฑ์การวินิจฉัยของ DSM-5

-ในช่วงเวลา 6 เดือน บุคคลนั้นอาจจะมีจินตนาการหรือแรงกระตุ้นที่เกี่ยวกับวัตถุที่ไม่มีชีวิตยกตัวอย่างเช่น ชุดชั้นใน รองเท้าส้นสูง หรือ ส่วนต่างๆของร่างกายที่เฉพาะเจาะจงเป็นเวลาอย่างน้อย6เดือน

-มีการเพ้อฝัน ความต้องการทางเพศหรืออาจจะเกิดความเครียดและอาจทำให้การงานหรือการอยู่ร่วมในสังคมแย่ลง

ประเภทของวัตถุที่พบมากที่สุดคืออะไร

การวิจัยได้บอกว่าเกือบทุกอย่างสามารถที่จะมีอารมณ์ทางเพศได้ในร่างกายมักเป็น เท้า มือ ผม รอยสัก และการเจาะส่วนต่างๆของร่างกาย ในส่วนของวัตถุมักเป็น รองเท้า ถุงมือ ชุดชั้นใน หนังยาง กระโปรง และผ้า อื่นๆ

สาเหตุ

ความผิดปกตินี้มักเริ่มมีอาการในช่วงวัยแรกรุ่น เป็นความผิดปกติของการพัฒนาสมองและปัจจัยอื่นๆสันนิษฐานว่าระหว่างสมองทั้งสองส่วนที่มีเปลือกนอกอยู่ห่างจากอวัยวะเพศมีโอกาสน้อยที่จะถูกกระตุ้นทางเพศเนื่องจากเท้าเป็นส่วนที่พบบ่อยที่สุด

การรักษา

อาการ Fetishistic อาจเป็นเรื่องปกติในบางครั้งก็ไม่ได้อันตรายอย่างที่ DSM ได้บอกไว้ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ยารักษาให้อาการให้เบาบางลงในบางครั้งระหว่างการบำบัดรักษาก็อาจมีอาการผันผวนและมีความต้องการทางเพศที่เกี่ยวกับสิ่งของซึ่งมีความแตกต่างกันระหว่างบุคคลการรักษานี้ต้องใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่ง (Depo-Provera) และ Cyproterone acetate อาจช่วยลดระดับฮอร์โมนเพศชายและความต้องการทางเพศลงและได้มีตัวอย่างการบำบัดโดยการให้ผู้ป่วยแยกแสงและสอนเทคนิคการควบคุมตัวเองที่จะรักษาแสงให้อยู่ในช่วงสีที่กำหนดการบำบัดนี้อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง

โรค fetishistic สามารถรักษาได้ด้วยยาหรือไม่

ยาที่เรียกว่า “แอนติแอนโดรเจน” สามารถช่วยลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ชั่วคราวและอาจใช้ยาร่วมกับวิธีการรักษาในรูปแบบอื่นเป็นยาที่ช่วยลดความต้องการทางเพศของเพศชาย

โรค fetishistic สามารถรักษาได้ด้วยการบำบัดหรือไม่

การบำบัดอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า Assisted Aversive Conditioning คล้ายกับทำให้เกิดอาการแพ้เมื่อผู้ป่วยรู้สึกถึงอาการสรุปคือให้ผู้ป่วยเชื่อมโยงกับพฤติกรรมเบี่ยงเบนกับเหตุการณ์เชิงลบ

#อิเคเมนรองพื้นผู้ชาย #ikemenThailand #รองพื้นคุมมัน #รองพื้นปกปิด #รองพื้นผสมกันแดด #ปกปิดรอยสิว

https://www.psychologytoday.com/intl/conditions/fetishistic-disorder