5 ข้อเท็จจริงเรื่องการแต่งงานของเพศเดียวกันในสหรัฐฯ

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2015 ศาลฎีกาสหรัฐฯ  ได้ออกคำวินิจฉัย ให้คู่รักเพศเดียวกันมีสิทธิแต่งงานตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ  คำพิพากษา 5-4 กรณี Obergefell และ Hodges มีผลรับรองการแต่งงานของเกย์ทั่วประเทศ รวมถึงใน 14 รัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยอนุญาต โดยคำพิพากษาอยู่ในตัวบทตีความแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 14  ทั้งนี้ศาลได้ตัดสินว่า การจำกัดการสมรสเฉพาะหญิงชายละเมิดการรับรองการคุ้มครองสิทธิอย่างเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย  และต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงสำคัญ 5 ประการเรื่องการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน

1.สาธารณชนยอมรับการแต่งงานในเพศเดียวกันเพิ่มขึ้น  แต่ช่องว่างระหว่างผู้เห็นต่างก็ยังคงถ่างกว้าง

(ภาพ 1)ผู้ยินยอมให้เกย์กับเลสเบี้ยนมีสิทธิแต่งงานตามกฎหมาย คิดเป็น % 

แบบจำลอง (เส้นกราฟ)

เส้นน้ำตาล –คัดค้าน  เส้นเหลือง-เห็นด้วย

เส้นประ- การพิพากษาอนุมัติให้คนเพศเดียวกันแต่งงาน

(ภาพ 2)

ผู้เห็นชอบให้เกย์กับเลสเบี้ยนมีสิทธิแต่งงานตามกฎหมาย คิดเป็น %

เส้นสีน้ำเงิน- เดโมแครต /ผู้สนับสนุนเดโมแครต

เส้นสีแดง- รีพับลิกัน/ผู้สนับสนุนรีพับลิกัน

หมายเหตุ :ข้อมูลปีที่ 2007-2015 เป็นค่าเฉลี่ยรายปี ไม่รวมปฏิกิริยาตอบสนอง

แหล่งที่มา : การสำรวจประชากรวัยผู้ใหญ่ 20-25 มีนาคม 2019 

โดย Pew Research Center   

ตั้งแต่ทศวรรษที่ผ่านมา สัดส่วนชาวอเมริกันที่เห็นด้วยกับการแต่งงานในเพศเดียวกันค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ส่วนการสนับสนุนจากสาธารณชนทะยานขึ้นไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ 4 ใน 10 คน (37%)ซึ่งเห็นด้วยกับการสมรสของเกย์และเลสเบี้ยนในปี 2009 เพิ่มขึ้นเป็น 62% ในปี 2017 ขณะความคิดเห็นส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แบบสำรวจล่าสุดของPew Research Center ระบุว่า ชาวอเมริกันประมาณ 6 ใน 10 คน (61%) สนับสนุนการแต่งงานในเพศเดียวกัน 

2.ในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีการสนับสนุนการแต่งงานในเพศเดียวกันเพิ่มขึ้นเกือบทุกกลุ่มประชากร แต่ในแต่ละกลุ่มย่อยมีสัดส่วนแตกต่างและยังมีช่วงห่าง อาทิ ปัจจุบัน มีชาวอเมริกันผู้ไม่นับถือศาสนาซึ่งสนับสนุนการแต่งงานของเพศเดียวกันอยู่ 79%  โปรเตสแตนต์ผิวขาว 66%  และคาทอลิก 61% อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้เผยแพร่ศาสนาโปรเตสแตนต์ผิวขาว มีเพียง 29% เท่านั้นที่สนับสนุนการแต่งงานในเพศเดียวกัน ซึ่งก็ยังคงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า (15%) จากปี 2009   ยังมีช่องว่างในกลุ่มประชากรต่างวัยด้วย เช่น 45% ของผู้ใหญ่รุ่น Silent Generation (ผู้ที่เกิดระหว่างปี 1928 - 1945) ยินยอมให้เกย์และเลสเบี้ยนแต่งงานกัน ขณะสัดส่วนของคนรุ่นมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 1981-1996) คือ 74% นอกจากนี้ยังแบ่งแยกด้วยความเห็นทางการเมือง โดยผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมการแต่งงานของคนเพศเดียวกันน้อยกว่าพรรคเดโมแครต (44% เทียบกับ 75%)

3.การแต่งงานในเพศเดียวกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

จากการสำรวจของ Gallup ในปี 2017 พบว่าชาว LGBT อเมริกันประมาณหนึ่งในสิบ (10.2%) แต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกันเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนคำตัดสินของศาลสูง (7.9%) และในปีเดียวกัน มีคู่สมรสเพศเดียวกันคิดเป็น 61% เพิ่มขึ้นจาก 38% ก่อนการพิจารณาคดี

4.ทำไมต้องแต่ง?

คิดเป็น % ตามที่แต่ละคนให้เหตุผล

สำคัญมาก สำคัญระดับหนึ่ง ไม่สำคัญ

ความรัก

LGBT   84 12     4

คนทั่วไป   88 9     2

มิตรภาพ

LGBT   71 24     5

คนทั่วไป   76 19     3

สร้างพันธะผูกพันตลอดชีวิต

LGBT 70 24 5

คนทั่วไป 81 14 4

เพื่อสิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมาย

LGBT 46 36 17

คนทั่วไป 23 38 37

ความมั่นคงทางการเงิน

LGBT 35 44 21

คนทั่วไป 28 48 22

เพื่อการมีบุตร

LGBT 28 41 31

คนทั่วไป 49 30 19

เพื่อระลึกจดจำผ่านพิธีกรรม

LGBT 17 29 53

คนทั่วไป 30 33 35

จากการ สำรวจของ Pew Research Center ปี 2013 พบว่า 84% ของผู้ใหญ่ที่เป็น LGBT และ 88% ของประชากรทั่วไประบุว่า ความรัก คือเหตุผลที่สำคัญยิ่งในการแต่งงาน  7 ใน 10 ของทั้งสองกลุ่มให้น้ำหนักกับความเป็นเพื่อน (71% และ 76% ตามลำดับ) แต่ก็มีความแตกต่างบางอย่างเช่นกัน อาทิ LGBT ให้น้ำหนักเรื่องสิทธิและผลประโยชน์ทางกฎหมายมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า (46% เทียบกับ 23%) ขณะคนทั่วไประบุว่าแต่งงานเพื่อมีบุตรมากกว่า LGBT(49% เทียบกับ 28%)

5.สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งใน 29 ประเทศและเขตอำนาจศาลที่อนุญาตให้คู่รักเกย์และเลสเบี้ยนแต่งงานกันได้ ประเทศแรกที่ออกกฎหมายนี้ในปี 2000 คือเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่นั้นมา ประเทศอื่น ๆ ในยุโรปอีกหลายประเทศ รวมถึงอังกฤษและเวลส์ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ สแกนดิเนเวีย สเปน ล่าสุด ออสเตรีย เยอรมนี และมอลตา ได้รับรองการแต่งงานของเกย์  ปัจจุบัน การแต่งงานเพศเดียวกันถูกกฎหมายทั้งในอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา โคลอมเบีย เอกวาดอร์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และอุรุกวัย รวมถึงบางส่วนของเม็กซิโก และในเดือนพฤษภาคม 2019 ไต้หวันกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียที่อนุญาตให้เกย์และเลสเบี้ยนแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

หมายเหตุ: นี่เป็นการอัปเดตโพสต์ ซึ่งเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2015 เดิมเขียนร่วมโดย Seth Motel อดีตนักวิเคราะห์การวิจัยของ Pew Research Center

David Masci ผู้เขียนบทความ เป็นอดีตนักเขียน/บรรณาธิการอาวุโสที่เน้นเรื่องศาสนาที่ Pew Research Center

#อิเคเมนรองพื้นผู้ชาย #ikemenThailand #รองพื้นคุมมัน #รองพื้นปกปิด #รองพื้นผสมกันแดด #ปกปิดรอยสิว

https://www.pewresearch.org/fact-tank/2019/06/24/same-sex-marriage/