'แคมป์ปิ้ง'เทรนด์ท่องเที่ยวที่มาแรงในยุคโควิด 19

"แคมป์ปิ้ง"เป็นกระแสการท่องเที่ยวที่มีมาเรื่อย ๆ ทั่วโลก เช่นเดียวกับเรื่องของการปั่นจักรยาน แต่หลังจากโควิด 19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกและมนุษย์ต้องกักตัว ต้องเว้นระยะห่าง ไม่อาจทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างปกติ ทำให้มนุษย์โหยหาธรรมชาติมากขึ้น เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายก็ต้องการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทำให้กระแสแคมป์ปิ้งกลับมาบูมอีกครั้งหนึ่ง

ในอดีตที่ผ่านมา กิจกรรมแคมป์ปิ้งเป็นที่นิยมแบบเฉพาะกลุ่ม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมการใช้ชีวิตกลางแจ้งเท่านั้น และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมแคมป์ปิ้งก็มักจะเป็นอุปกรณ์เฉพาะที่นิยมเฉพาะกลุ่มและมีราคาค่อนข้างแพง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้อุปกรณ์หลายอย่างมีราคาถูกลง มีคุณสมบัติที่ดียิ่งขึ้น มีความหลากหลายของฟังค์ชั่นและอรรถประโยชน์ต่าง ๆ ทำให้ผู้คนมีทางเลือกในการทำกิจกรรมแคมป์ปิ้งมากขึ้น เช่น เต๊นท์ที่สามารถกางบนหลังคารถ,รถพ่วงขนาดเล็กสำหรับแคมป์ปิ้ง ,ดวงไฟที่ใช้พลังงานโซลาเซลล์ , แผนที่และสภาพอากาศจากสมาร์ทโฟน ฯลฯ ด้วยความสะดวกในหลาย ๆ อย่าง ทำให้การแคมป์ปิ้งเป็นเรื่องง่าย ทั้งในการเตรียมตัว และการเดินทางลงทุนกับอุปกรณ์แคมป์ปิ้งจำนวนหนึ่ง คุณก็สามารถไปแคมป์ปิ้งได้ง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะมีรถบ้าน รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ตาม

ผลสำรวจของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและเว็บไซต์ booking.com ระบุว่า นักเดินทางชาวไทยนิยมท่องเที่ยวในสถานที่คุ้นเคยซึ่งมีความปลอดภัย และมีสุขอนามัยที่ดี โดยนิยมเดินทางด้วยรถส่วนตัวมากที่สุด มักเดินทางเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เดินทางในระยะทางไม่ไกลนัก แต่ต้องมีจุดตั้งแคมป์ที่ดี และสถาพแวดล้อมที่สวยงามด้วย

ประวัติศาสตร์ของการแคมป์ปิ้ง ที่มีการบันทึกไว้คือ "โทมัส ไฮแรม โฮลอิ้ง"ช่างตัดเนื้อชาวอังกฤษที่นิยมมาตั้งแคมป์ริมแม่น้้ำเทมส์ จนกลายเป็นกระแสให้คนอื่น ๆ ทำตาม เขาได้เขียนคู่มือผู้พักแรมขึ้นในปี 1908 และได้ก่อตั้ง Association of Cycle Camper ขึ้น (ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งแคมป์ยอดนิยมที่ชื่อ Caravaning Club) ส่วนในสหรัฐฯ ผู้เป็นต้นกำเนิดของการแคมป์ปิ้งก็คือ "วิลเลียม เฮนรี แฮร์ริสัน"รัฐมนตรีในรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐคอนเนคติกัตซึ่งนิยมกิจกรรมตั้งแคมป์ตกปลากับครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นประจำ เขาได้เขียนหนังสือคู่มือการตั้งแคมป์ที่ชื่อว่า "Adventures in The Wilderness ; or, Camp Life in the Adirondacks" ซึ่งนอกจากจะมีเรื่องของการใช้ชีวิตกลางแจ้งแล้ว ยังบอกเล่าถึงแนวคิดในการเอาตัวรอดและการที่ธรรมชาติสามารถบำบัดจิตใจได้อีกด้วย

ในประเทศที่พัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่น ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ล้วนมีวัฒนธรรมการแคมป์ปิ้งที่เป็นกระแสนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลได้จัดให้มีจุดตั้งแคมป์มากมายทั่วประเทศ และยังมีจุดตั้งแคมป์ของเอกชนอีกหลายจุด มีอุปกรณ์ตั้งแคมป์โดยเฉพาะมากมายให้เลือก ส่วนในญี่ปุ่นเอง จะเรียกว่าเป็นสวรรค์ของชาวแคมป์เลยก็ว่าได้ เพราะมีจุดตั้งแคมป์มากกว่า 1,300 แห่งทั่วภูมิภาค ทั้งในป่า ริมทะเลสาบ ริมแม่น้ำ ฯลฯ ทั้งยังอำนวยความสะดวกทั้งห้องน้ำและไวไฟตามจุดเหล่านั้นอีกด้วย

ในประเทศไทยเอง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสแคมป์ปิ้งมาแรงมาก ส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย และส่วนใหญ่สะดวกในการเดินทาง หรือที่พักของเอกชนเอง ก็ยินดีรองรับกระแสนี้เช่นเดียวกัน นอกจากการแคมป์ปิ้งตามปกติ ยังมีกระแสที่เรียกว่า"Glamping"ที่มาจากคำว่า glamorous(หรูหรา)มารวมกับคำว่า camping ซึ่งหมายถึงการแคมป์ปิ้งที่ค่อนไปทางหรูหราสะดวกสบาย ดังที่จะเห็นได้จากดารานักร้องที่มีชื่อเสียงหลายคน ที่มีไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวในแบบ Glamping หรือสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งใช้ความเป็น Glamping เป็นจุดขาย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าคุณจะแคมป์ปิ้งตามกระแสหรือเพราะสนใจจริง ๆ สิ่งสำคัญที่ควรจำให้ขึ้นใจ คือเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมและการให้ความเคารพต่อผู้คนและสถานที่ที่ไปตั้งแคมป็ การรักษาระยะห่าง ไม่ส่งเสียงดัง เก็บขยะ จัดการกองไฟให้เรียบร้อยตลอดจนเป็น "ผู้สังเกตุการณ์ที่ดี" ต่อพืช สัตว์ สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ จะถ่ายรูปถ่ายคลิปก็ไม่ควรรบกวนใครใด ๆ ทั้งสิ้น เก็บเพียงความประทับใจกลับบ้าน เพื่อสิ่งสวยงามตามธรรมชาติดำรงอยู่คู่โลกต่อไป

https://onceinlife.co/camping-tours

#อิเคเมนรองพื้นผู้ชาย #ikemenThailand #รองพื้นคุมมัน #รองพื้นปกปิด #รองพื้นผสมกันแดด #ปกปิดรอยสิว