8 นิสัยของผู้ที่นอนหลับสนิทและพักผ่อนอย่างเต็มที่

การนอนหลับยากไม่ใช่เรื่องสนุกเลย  คุณต้องคอยเติมคาเฟอีนและรู้สึกหงุดหงิดตลอดวันรุ่งขึ้น ขณะเพื่อนร่วมงานซึ่งนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ จดจ่อกับงานและทำทุกอย่างเสร็จได้ในเวลาอันเหลือเฟือ  ลองฝึกเข้านอนอย่างคนที่หลับสนิทและตื่นมาอย่างสดชื่นด้วย 8 นิสัยเหล่านี้ 

1.พวกเขาดูแลเรื่องการเข้านอนในเชิงรุก

ข้อมูลเฉพาะในสหราชอาณาจักรระบุว่า คน 1 ใน 5 รู้สึกเหนื่อยแบบผิดปกติทั้งที่ไม่ได้ป่วย ความเครียดเล็กๆน้อย ๆ รวมทั้งการพลิกตัวไปมาเพราะหลับไม่สนิททำให้พวกเขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงในตอนกลางวัน  อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนหลับสนิทมีและคุณสามารถทำได้คือ ความมุ่งมั่น กิจวัตร และการปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดีในการนอน รวมถึง อาทิ การลงทุนซื้อที่นอนซึ่งรองรับสรีระ  การเคลียร์ห้องนอนไม่ให้มีสิ่งรบกวนสมาธิ และเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม   

2.พวกเขารักษาจังหวะนาฬิกาชีวภาพอย่างมีประสิทธิภาพ

คนที่หลับเต็มอิ่มจะควบคุมการนอนของตัวเองได้  มูลนิธิการนอนหลับแห่งชาติระบุว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนอนหลับของผู้ใหญ่ อายุ18-64 ปี คือ 7-9 ชั่วโมง Michael Breus ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับกล่าวว่า รอบการนอนหลับโดยเฉลี่ยของแต่ละคนอยู่ที่ประมาณ 90 นาที มนุษย์ต้องการการนอนหลับประมาณ 5 รอบ คิดเป็น 7.5 ชั่วโมงต่อคืน ในการหาว่าคุณควรเข้านอนกี่โมง ให้เลือกเวลาตื่นนอนที่เหมาะสมแล้วนับถอยหลังไป 7.5 ชั่วโมง  และแม้แต่วันหยุดก็ให้เข้านอนและตื่นในเวลาเดิม เพื่อคงจังหวะสม่ำเสมอของนาฬิกาชีวภาพ หากคุณนอนหลับได้อย่างสม่ำเสมอ  คุณจะไม่รู้สึกเพลียระหว่างวันอีกต่อไป ฮอร์โมนจะทำงานอย่างสมดุล  ระดับพลังงานเพิ่มขึ้น และร่างกายมีเวลาพักฟื้น 

3.พวกเขาไม่ใช้สมาร์ทโฟนก่อนนอน

พอนอนหลับยากคุณก็ยิ่งติดนิสัยเลื่อนหน้าจอดูอะไรต่อมิอะไรไปจนดึกดื่น แต่นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ แสงสีฟ้าจากโทรศัพท์ทำลายรูปแบบการตื่น-หลับของคุณ มันหลอกสมองให้คิดว่าเป็นเวลาเช้าและขัดขวางการผลิตเมลาโทนิน ทำให้คุณหลับยาก เสี่ยงต่อโรคและเกิดอาการซึมเศร้าได้ ปิดเทคโนโลยีทั้งหมดก่อนเข้านอน เก็บโทรศัพท์ไว้อีกด้านหนึ่งของห้อง  และจำไว้ว่า ไม่มีการเล่นเฟสบุ๊คถึงตี 2 อีกต่อไป !  

4.พวกเขากินสิ่งที่ถูกต้อง

คุณจะนอนหลับได้ดีเพียงใดสามารถดูได้จากอาหารที่คุณรับประทาน การกินช็อกโกแลตแท่งแบบเติมน้ำตาลทั้งวัน นั้นเพิ่มระดับอินซูลินและทำให้คุณง่วงทั้งที่ควรตื่น ทำนองเดียวกับการดื่มกาแฟเรื่อย ๆ ในชั่วโมงทำงาน คุณจะไม่สามารถเข้านอนได้ง่าย ๆ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง เพราะทำให้นอนหลับยาก เช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ อาหารรสเผ็ด และคาเฟอีน สำรวจตู้เย็นของคุณ ดูให้มีอาหารที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ เช่น อาหารโฮลเกรน ไก่งวง หรือคอทเทจชีส  ก่อนนอน 1 ชั่วโมง สามารถลดความหิวและกระตุ้นการสร้างเซโรโทนิน/เมลาโทนิน ซึ่งควบคุมรูปแบบการหลับและตื่นได้ด้วยขนมปังหรือแครกเกอร์ชิ้นเล็ก ๆ  ชาคาโมมายล์ น้ำผึ้ง อัลมอนด์ หรือกีวี

5.พวกเขาเป็นนักอ่านตัวยง

คนที่หลับเต็มอิ่มพักผ่อนเต็มที่นั้นส่วนใหญ่ชอบอ่านหนังสือ พวกเขาจะปิดอุปกรณ์สื่อสาร กระโดดลงบนเตียงและขดตัวอ่าน กระบวนการพักผ่อนก่อนหลับสำคัญมาก ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่ม  คือการบอกร่างกายว่ากิจกรรมทั้งหมดได้ยุติลง ถึงเวลาแล้วที่จะผ่อนคลาย นอกจากนี้ การอ่านยังพาคุณดำดิ่งสู่โลกที่ไกลแสนไกลจากชีวิตจริง ขจัดความกังวลและช่วยให้คุณคลายเครียด รายงานจาก The Telegraph อ้างว่า 'ใช้เวลาในการอ่านเพียง 6 นาทีเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ/ความตึงเครียดในกล้ามเนื้อ' 

6.พวกเขาชื่นชมแสงแดด

แสงสว่างส่งผลต่อคุณภาพการหลับ หากไม่ได้รับแสงแดดเพียงพอ นาฬิกาชีวิตรวมทั้งรูปแบบการนอนหลับ/ตื่นตามธรรมชาติของคุณอาจแปรปรวนได้  จากการศึกษาของ Associated Professional Sleep Societies LLC เปรียบเทียบพนักงาน 49 คน ในที่ทำงานแบบไม่มีหน้าต่าง 27 แห่ง มีหน้าต่าง 22 แห่ง พบว่าพนักงานที่ได้รับแสงธรรมชาติจะนอนหลับได้ดีกว่า  ยิ่งไปกว่านั้น พนักงานในออฟฟิศที่มีหน้าต่างได้รับการพิสูจน์ว่ากระฉับกระเฉงมากกว่า ซึ่งช่วยให้พวกเขานอนหลับได้อย่างมีคุณภาพ จงเลิกรับประทานอาหารกลางวันที่โต๊ะทำงาน  เดินไปรับแสงแดดบ้างเพื่อการนอนหลับของคุณ

7.พวกเขาสนใจเรื่องสติและสมาธิ

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและผู้เขียนหนังสือขายดี ดร. Weil สนับสนุน 'เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8'(หายใจเข้า 4 วินาที ค้างไว้ 7 วินาที จากนั้นหายใจออก 8 วินาที ทำซ้ำ 3 ครั้ง) การหายใจที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย สงบ และหลับง่าย  นอกจากนี้ การศึกษาโดย Havard Medical Health  ยังยืนยันว่า การมีสติอยู่กับปัจจุบัน  ฝึกรู้ทันอารมณ์ ความคิดของตนในแต่ละช่วงขณะ จะทำให้คุณรับมือกับความท้าทายในแต่ละวันได้มากขึ้น รวมทั้งมีความคิดที่กระจ่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยคลายแรงกดดันต่าง ๆ ทำให้คุณนอนหลับได้โดยปราศจากความเครียดเป็นเวลา 7-9 ชั่วโมง 

8.พวกเขาขอความช่วยเหลือทางการแพทย์

หากคุณยังคงหลับยาก คุณควรไปพบแพทย์ เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันราว 22 ล้านคนต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ  หากคุณมีอาการปวดหัวเรื้อรัง นอนไม่หลับ ขาดพลังงาน หรือกระวนกระวาย ให้หารือกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อไขสาเหตุให้กระจ่าง

https://www.realbuzz.com/articles-interests/health/article/8-habits-of-highly-effective-sleepers/