ในบรรดาการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ "โยคะ"(Yoga) เป็นศาสตร์ด้านสุขภาพอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความสนใจอยู่เสมอ เพราะไม่ใช่แค่ "การลดน้ำหนัก"อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่โยคะคือการสร้างความสมดุลย์ของร่างกายและจิตใจ และช่วยให้ชีวิตมีความละเอียดอ่อนลึกซึ้งมากขึ้นด้วย
โยคะกำเนิดในประเทศอินเดียเมื่อหลายพันปีมาแล้ว โดยปรากฎหลักฐานเมื่อราว 200 ปีก่อนคริสตกาล ว่านักปราชญ์ชาวฮินดูชื่อ "ปตัญชลี" เป็นผู้รวบรวมและปรับปรุงการฝึกโยคะขั้นพื้นฐานโดยจารึกสูตรฝึกโยคะแบ่งเป็น 8 หัวข้อสั้น ๆ ซึ่งได้กลายเป็นพื้นฐานของศาสตร์โยคะมาจนถึงปัจจุบัน
การฝึกโยคะ จะเป็นการเน้นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกาย ร่วมกับการหายใจ ซึ่งจะกระตุ้นให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมทั้งต่อมไร้ท่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังจะเห็นได้ว่า การฝึกโยคะอย่างจริงจัง ทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้นมาก จนทำให้น้ำหนักลดลงได้
ประเภทของโยคะและความเหมาะสมของผู้ฝึก
1.หฐโยคะ (Hatha Yoga)
เป็นการฝึกร่างกายให้อยู่ในการควบคุมของจิตใจ โดยเน้นการยืดหยุ่นร่างกายพร้อมกับการกำหนดลมหายใจ สร้างสมดุลย์ เน้นการผ่อนคลาย เหมาะกับผู้เริ่มต้น
2.วินยาสะโยคะ (Vinyasa Yoga)
เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่อง จากท่าหนึ่งไปยังอีกท่าหนึ่ง ควบคู่กับการกำหนดลมหายใจช้าๆ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ลดความเครียด เสริมสุขภาพกายและใจ ควรฝึกหฐโยคะมาแล้วระยะหนึ่ง
3.อัษฎางคโยคะ (Astanga Yoga)
เป็นการฝึกร่างกายและลมหายใจร่วมกับการกำหนดจุดมองของสายตา เป็นการเคลื่อนไหวแบบควบคุมลมหายใจ โดยในแต่ละท่าจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงต่อเนื่องกันไป แตกต่างจากวินยาสะโยคะที่เปลี่ยนท่าไปเลยทุกครั้ง
4.อนุสราโยคะ (Anusara Yoga)
เป็นการฝึกโยคะที่ได้ใช้ทุกส่วนในร่างกาย มีจุดมุ่งหมายเพื่อการรักษาโรค โดยการฝึกปฏิบัติให้พัฒนาจากจิตใจออกมาสู่ร่างกาย
5.โยคะร้อน (Bikram Yoga)
เป็นการฝึกโยคะในห้องที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งความร้อนจะช่วยให้เส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อผ่อนคลายได้ดี ทำให้ร่างกายขจัดของเสียทางเหงื่อได้มากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน มีปัญหาปวดหลังหรือปวดคอ เป็นโยคะที่ฝึกได้ทุกเพศทุกวัยโดยไม่ต้องมีประสบการณ์
6.ไอเยนโยคะ (Iyengar Yoga)
เป็นการฝึกโยคะแบบจัดท่าที่กระจายน้ำหนักผ่านแขน ขา และกระดูกสันหลังอย่างเหมาะสม โดยใช้อุปกรณ์ช่วยอย่างเช่นผนังห้อง เก้าอี้ หมอน หรือเข็มขัดโยคะ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานและต้องการฝึกโยคะ
7.กฤปาลูโยคะ (Kripalu Yoga)
เป็นการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้สมาธิมาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการฝึกสมาธิแต่มีปัญหาทางด้านร่างกาย ซึ่งจะเริ่มฝึกใจจากการทำสมาธิของร่างกายตนเองเป็นหลัก
8.พรีเนทัลโยคะ (Prenatal Yoga)
เป็นโยคะที่ปรับท่าทางให้เหมาะกับสตรีมีครรภ์ ช่วยให้คุณแม่มีความแข็งแรงทางร่างกายและจิตใจทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด เป็นการช่วยลดความปวดเมื่อย ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ ลดอาการปวดหลัง ปวดคอ ข้อเท้า และทำให้รูปร่างหลังคลอดกลับเข้าสู่สภาพปกติได้เร็วขึ้น
ประโยชน์ของโยคะนั้นมีมากมาย ทั้งทำให้มีสมาธิ คลายเครียด ลดน้ำหนัก ทำให้ร่างกายยืดหยุ่น แข็งแรง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานดีขึ้น ผิวพรรณผ่องใสดูอ่อนกว่าวัย ฯลฯ หากเริ่มต้นฝึกตั้งแต่ตอนนี้ สุขภาพดีก็จะเป็นของคุณ
https://rositacorrer.com/โยคะ-เพื่อสุขภาพแถมลด/