คำว่า Paleo นั้นมาจากคำว่า Palaeolithic หรือยุคถ้ำ อันเป็นยุคที่มนุษย์ยังไม่รู้จักทำการเพาะปลูก และยังชีพด้วยการเก็บหาของป่าและล่าสัตว์ แนวคิดของการไดเอท หรือรับประทานอาหารแบบพาเลโอมาจากความคิดที่ว่า มนุษย์สืบทอดระบบพันธุกรรมมาจากบรรพบุรุษ ระบบย่อยอาหารไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปสมัยใหม่ ธัญพืช กาแฟ และผลิตภัณฑ์จากนมมาบริโภคแบบเดียวกับบรรพบุรุษนั้นเหมาะสมต่อสุขภาพที่สุด “โซฟี เมดลิน” นักโภชนาการ ผู้ก่อตั้ง City Dieticians และ “มีนา ข่าน” อดีตเภสัชกร ผู้ก่อตั้ง Formulate Health บอกข้อดีข้อเสียของอาหารพาเลโอ ไว้ค่อนข้างครอบคลุม ดังนี้
อาหาร Paleo คืออะไร?
อาหาร Paleo ที่แท้จริงประกอบด้วยสัตว์ที่สามารถไล่ล่า หรือพืชผักผลไม้ที่เก็บหามาได้เท่านั้น อาทิ เนื้อสัตว์ ไข่ ผลไม้ ผัก รากไม้และถั่ว ไม่รวมอาหารแปรรูปทุกชนิด รวมทั้งธัญพืช พืชตระกูลถั่ว น้ำมันแปรรูป เกลือ แอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำตาล สารให้ความหวาน และผลิตภัณฑ์นมต่างๆ (เพราะไม่มีการเลี้ยงสัตว์จนกระทั่งหลังยุคหินเก่า) "อาหาร Paleo ส่วนใหญ่ประกอบด้วยอาหารธรรมชาติที่ยังไม่ได้แปรรูปตามแบบที่บรรพบุรุษมนุษย์ถ้ำของเรากิน" ข่านกล่าว พร้อมกับแนะนำให้เลือกอาหารออร์แกนิกทุกชนิดเท่าที่ทำได้ ควบคู่ไปกับเนื้อและไข่ที่เลี้ยงแบบปล่อยในทุ่งหญ้า
กินอะไรได้บ้าง?
ย้อนกลับไปในปี 1975 “วอลเตอร์ โวกท์ลิน” แพทย์ระบบทางเดินอาหาร เขียนหนังสือชื่อ The Stone Age Diet สนับสนุนการรับประทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นหลัก โดยมีผักและอาหารประเภทแป้งในปริมาณน้อย ปี 2002 คำว่า 'The Paleo Diet' กลายเป็นหัวข้อฮิตติดเทรนด์ “ดอกเตอร์ลอเรน คอร์เดน” ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยโคโลราโด ซึ่งออกหนังสือชื่อเดียวกันได้ระบุรายการอาหารที่อนุโลมให้เป็นอาหารพาเลโอไว้เป็นแนวทาง ดังนี้ :
ผักสด : พริกหยวก บร็อคโคลี่ แครอท กระเทียม หัวหอม มันเทศ ฯลฯ
ผลไม้ : แอปเปิ้ล อะโวคาโด กล้วย เบอร์รี่ มะนาว มะนาว แตง ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ : เนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้า ไก่ที่เลี้ยงในทุ่งหญ้า เนื้อสัตว์ป่า อาหารทะเล ปลา ไข่ ฯลฯ
ถั่วและเมล็ดพืช : อัลมอนด์ บราซิลนัท เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เฮเซลนัท ไพน์นัท พิสตาชิโอ ฯลฯ
น้ำมันและน้ำส้มสายชูเพื่อสุขภาพ : น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอะโวคาโด น้ำส้มสายชูบัลซามิก น้ำส้มสายชูไวน์แดงหรือไวน์ขาว ฯลฯ
เครื่องเทศและเครื่องปรุงอื่น ๆ : โหระพา โรสแมรี่ ผักชีฝรั่ง การัม มาซาล่า ขิง อบเชย วะนิลา เกล็ดมะพร้าวไม่หวาน ดาร์กช็อกโกแลต ฯลฯ
เครื่องดื่ม : นมอัลมอนด์ กะทิ ชา น้ำผลไม้คั้นสด เบียร์ปราศจากกลูเตน สุรา ไวน์
อาหารสำเร็จรูป:น้ำซุป มะเขือเทศหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ผลไม้และผักแช่แข็ง มะเขือเทศบด เนยถั่ว ทาฮินี ฯลฯ
ข้อถกเถียงเกี่ยวกับอาหารพาเลโอ
มนุษย์ยุคแรกไม่ได้กินอาหารแบบเดียวกันทั้งหมด ตามข้อมูลของ Human Diet: Its Origin and Evolution โดย แคเธอรีน มิลตัน “อันที่จริง เราไม่ทราบว่าพวกเขากินอะไรแน่ชัด เราไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับช่วงของอาหารที่นักล่าและรวบรวมสัตว์ในยุคหินพาลีโอลิธอิกบริโภคในแทบทุกสภาพแวดล้อมทุกเวลา" เธอกล่าว
แม้แต่ชนเผ่านักล่านักเก็บหาของป่าที่หลงเหลืออยู่ทุกวันนี้ก็กินอาหารที่แตกต่างกันอย่างมหาศาล ชาวเอสกิโมซึ่งอาศัยอยู่ในแถบอาร์กติก ส่วนใหญ่กินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล นก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบก และปลา เนื่องจากที่นั่นพืชมีแค่ไลเคนและตะไคร่น้ำ ขณะเดียวกัน ชาวฮัดซาซึ่งอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของแทนซาเนีย กลับได้รับแคลอรีจากพืชเกือบ 70%
นอกจากนี้ ข้อมูลทางโภชนาการของพืชและสัตว์เลี้ยงในยุคสมัยใหม่แต่ละแห่งมีความแตกต่างอย่างมากกับสมัยโบราณ วัวได้รับการคัดเลือกพันธุ์เพื่อให้ได้เนื้อหรือนมสูงสุด หากงอกในป่า อัลมอนด์จะมีระดับไซยาไนด์ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต และในยุคหินเก่าไม่มีบรอกโคลี คะน้า กะหล่ำปลีและกะหล่ำดอก
ขณะที่มนุษย์ยุคแรกจำนวนมากเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนคนที่อายุยืนยาวขึ้นกลับไม่มีภูมิต้านทานต่อโรค จากการศึกษามัมมี่โบราณ 147 ตัวจากทั่วโลก นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมิสซูรี-แคนซัสซิตี พบสัญญาณการสะสมของไขมันสะสมในหลอดเลือดแดง ซึ่งปกติพบในมนุษย์วิถีชีวิตสมัยใหม่มากกว่าหนึ่งในสาม
อาหารพาเลโอดีต่อร่างกายอย่างไร
อาหารพาเลโอได้ชื่อว่าเป็นวิธีการปรับปรุงสุขภาพ จากความคิดที่ว่าผลผลิตทางการเกษตรยุคสมัยใหม่ของเราคือสาเหตุหลักของโรคเรื้อรัง ถึงแม้ข้อมูลที่ว่าการย่อยอาหารของมนุษย์ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะ มนุษย์ปัจจุบันพัฒนาความทนทานต่อเอ็นไซม์แลคโตสในผลิตภัณฑ์นม ส่วนการรับประทานอาหารแปรรูป น้ำตาล และเกลือให้น้อยลงนั้นสอดคล้องกับคำแนะนำด้านสุขภาพทั่วไป
"เมื่อเราหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เราก็จะบริโภคไขมันอิ่มตัว เกลือและน้ำตาลน้อยลงโดยปริยาย ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ เช่น หัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง " ข่านกล่าว นอกจากนี้ อาหารแปรรูปประเภทแป้งมีแคลอรีสูงแต่สารอาหารต่ำ ดังนั้นการจำกัดการบริโภคอาหารเหล่านี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก นอกจากอาหารแปรรูปแล้ว อาหารพาเลโอยังตัดกลุ่มอาหารที่จำเป็นบางอย่างออกไป เช่น คาร์โบไฮเดรต
ข้อเสียของอาหารพาเลโอ
หากคุณสนใจที่จะรับประทานอาหารพาเลโอ ให้ลองหารือกับแพทย์ประจำตัวของคุณหรือนักโภชนาการก่อนจะดีกว่า เนื่องจากองค์ประกอบบางอย่างตามแผนการรับประทานอาหารแบบพาเลโออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณได้เพราะอาหารพาเลโออาจมีไขมันอิ่มตัวสูง “อาหารพาเลโอทำให้คุณรับประทานเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ และถั่วในปริมาณมากกว่าปกติ” ข่านกล่าว “การกินอาหารเช่นนี้ในปริมาณที่พอเหมาะเป็นประโยชน์ก็จริง แต่ถ้ามากไปก็อาจนำไปสู่การบริโภคไขมันอิ่มตัวมากเกิน ซึ่งพอนานไปอาจก่อความเสียหายต่อไตและหัวใจ”
อาหารพาเลโอมีข้อจำกัด
“เนื่องจากลักษณะที่จำกัด อาจเป็นเรื่องยากที่จะยึดเป็นแบบแผนการบริโภคในระยะยาว และต้องใช้การวางแผน การเตรียมการค่อนข้างมาก" ข่านกล่าว “ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหารแบบพาเลโอมักจะรายงานถึงอาการพลังงานต่ำ มีกลิ่นปาก และปัญหาทางเดินอาหาร ซึ่งอาจทำให้การควบคุมอาหารยากขึ้นไปอีก'
การรับประทานอาหารพาเลโออาจทำให้ขาดสารอาหารได้
“การตัดนมและผลิตภัณฑ์อาหารประเภทแป้งโดยเฉพาะธัญพืชออกไป หมายถึงการขาดเส้นใยแคลเซียมและวิตามินดี” ข่านบอก "สิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณในระยะยาว เนื่องจากสารอาหารที่จำเป็น เช่น แคลเซียมและวิตามินดีมีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพของหัวใจ ความแข็งแรงของกระดูก และการทำงานของเส้นประสาท"