ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Off-White ได้กลายเป็นแบรนด์สตรีทแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มีดารานักร้องนางแบบนายแบบระดับโลกมากมายหันมาใช้แบรนด์นี้ Off-White โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่แหวกขนบ มีการตัดเย็บ และใช้วัสดุชั้นนำ ซึ่งสามารถสร้าง identity ให้กับผู้ครอบครอง รวมไปถึงวิสัยทัศน์ของ Virgil Abloh (เวอจิล แอบโลห์)ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Off-White ขึ้นมาอยู่แถวหน้าของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกในเวลาเพียงไม่กี่ปี
"Virgil Abloh"ชายหนุ่มผิวสีผู้ก่อตั้งแบรนด์ Off-White ไม่ได้จบการศึกษาด้านแฟชั่นโดยตรง แต่เขาจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์และปริญญาโทด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลังเรียนจบ เขาได้มาทำงานเบื้องหลังในวงการบันเทิงและได้มาเป็น Creative Director ให้กับ Kanye West แร็ปเปอร์ชื่อดัง
ด้วยมุมมองด้านศิลปะและการออกแบบที่แปลกใหม่ ทำให้เขามีวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง ซึ่งต่อมา เขาก็ได้เปิดแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเองเป็นครั้งแรกในชื่อ PYREX VISION ซึ่งเคยสร้างปรากฎการณ์ นำเสื้อเชิ้ต POLO ลายสก๊อตที่ลดราคาเหลือตัวละ 40 USD มาสกรีนคำว่า "PYREX 23"แล้วขายในราคา 550 USD กลายเป็นงานแนวสตรีทที่ฮือฮาแต่ก็โดนวิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน
ต่อมา Virgil ได้รู้จักกับ Marcelo Burlon และ Divide Giglio ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์จากอิตาลี ทั้งคู่ชื่นชอบงานของ Virgil และอยากร่วมงานกับเขา ต่อมา Virgil จึงตัดสินใจปิดแบรนด์ PYREX VISION แล้วสร้างแบรนด์ใหม่คือ Off-White ในปี 2012
Off-White เริ่มต้นด้วยไลน์ผลิตเสื้อยืดและเสื้อฮู้ดของผู้ชายและคอลเลคชั่นพร้อมใส่ของผู้หญิง แต่ก็ประสบปัญหาจากการที่ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถรับแรงดึงได้มากพอ ทำให้ยอดเริ่มตก
จุดเปลี่ยนของ Off-White เกิดจากคอลเลคชั่นของฤดูหนาวปี 2016 ซึ่ง Virgil ได้เปิดตัวสตรีทแฟชั่นเข็ดขัดแนวอุตสาหกรรม ที่มีปลายหางลากไปบนทางเท้า ซึ่งโดดเด่นเหนือเสื้อเชิ้ต Prada ที่นายแบบสวมใส่ มันสร้างความฮือฮามาก และทำให้ยอดขายเข็มขัดเส้นนี้พุ่งสูงทันที จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างที่ Off-White ผลิตออกมาก็กลายเป็นของมีค่าที่เหล่าสาวกสตรีทแวร์ต่างหามาครอบครอง
Virgil เอง เมื่อมีผลงานที่โดดเด่น ก็ได้รับโอกาสให้ทำงานร่วมกับแบรนด์ดังมากมายทั้ง Nike IKEA และ Louis Vuitton จนได้รับการยกย่องว่าเป็นไอคอนของคนผิวสีที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะนักออกแบบผิวสี ที่ได้ยืนอยู่แถวหน้าของโลกแฟชั่น
Off-White เป็นแบรนด์ที่ผลิตทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ของตกแต่ง ของใช้ในบ้าน ฯลฯ เช่นเดียวกับที่ SUPREME แบรนด์สตรีทชื่อดังทำ ราคาของ Off-White โดยเฉลี่ยจะสูงกว่า SUPREME แต่ก็ยังต่ำกว่าแบรนด์หรูทั่วไป จึงเป็น position ใหม่ที่อยู่ระหว่างสตรีทแวร์และแบรนด์หรู ที่ไม่มีใครทำมาก่อน ในประเทศไทย แบรนด์ Off-White ก็ได้มาเปิดสโตร์ที่สยามพารากอนตั้งแต่ปี 2018 และมีผู้สนใจในแบรนด์เข้าไปช็อปกันอย่างต่อเนื่อง
หากถามถึงความสำเร็จในภาพรวมนั้น อาจกล่าวได้ว่า Off-White ได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว เพราะในปี 2019 "New Guards Group"กลุ่มบริษัทที่เป็นการรวมตัวของแบรนด์ระดับโลก 9 แบรนด์ โดยมี Off-White เป็นแบรนด์หลัก มีรายได้สูงถึง 10,724 ล้านบาท ก่อนที่ในเวลาต่อมา"FAREFETCH"แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังจะซื้อ New Guards Group ไปด้วยมูลค่าสูงถึง 20,488 ล้านบาท
ดีไซน์ของ Off-White นั้น จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากชนิดที่ว่า ถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย เช่นเดียวกับ "เข็มขัดลายอุตสาหกรรม"อันเลื่องลือของ Virgil ขณะเดียวกัน สโตร์หรือร้านค้าของ Off-White ก็ไม่ได้เป็นแค่ร้านขายของแต่ยังมีฟังค์ชั่น อื่น ๆ เช่น การจัดกิจกรรม การสร้างพื้นที่การสื่อสาร ตลอดจนการกลายเป็นรันเวย์แฟชั่น ซึ่งทำ Off-White แตกต่างและโดนใจคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
อย่าเพิ่งเชื่อเพียงแค่รูปที่เห็นจากหน้าจอสมาร์ทโฟน ลองไปที่สโตร์ และพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง
ลิ้งค์บทความ
https://www.longtungirl.com/147
https://positioningmag.com/1312250
https://www.off---white.com/en-th/collections